สัตว์ประหลาดตัวยักษ์ที่ออกมาทำลายบ้านเมือง และ สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก จนสุดท้ายมันก็ต้องถูกมนุษย์ หรือ มนุษย์ยักษ์ด้วยกันปราบลง เราเชื่อพล็อตเรื่องแบบนี้หลาย ๆ คนน่าจะเคยดูกันเมื่อสมัยเป็นเด็ก เพราะว่าการที่เราได้เห็นสัตว์ประหลาดตัวยักษ์มาต่อสู้กันนั้น มันช่างเป็นอะไรที่สร้างความตื่นตา ตื่นใจให้กับเราในสมัยเด็ก ๆ อยู่เสมอ
แต่ทว่าในตอนเด็กนั้นเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงดูเพียงแค่เอาสนุก เพราะอินไปกับฉากแอ็คชั่นต่าง ๆ แต่ทว่าเมื่อเราโตขึ้น หากเราย้อนกลับไปดูหนังแนวนี้อีกที มันจะทำให้เราเกิดคำถามขึ้นมาในสมองอยู่เสมอว่า แล้วถ้าสู้กันเสร็จ ซากของเจ้าสัตว์ประหลาดพวกนี้จะทำอย่างไรกับมันต่อ และเพราะไอเดียนี้นี่แหละ ที่มันได้ทำให้เกิดหนังอย่าง What To Do With The Dead Kaiju? ขึ้น
โดยเรื่องย่อของอย่าง What To Do With The Dead Kaiju? จะเล่าถึงเรื่องราวของ ไคจูตัวหนึ่งได้นอนตายขาชี้ฟ้าโดยไม่ทราบสาเหตุ รัฐบาลจึงจัดตั้งหน่วยพิเศษขึ้นมาเพื่อหวังว่าจะจัดการซากศพของเจ้าไคจูตัวนี้ แต่ปฏิบัติการที่ดูเหมือนจะไหวก็กลับไม่มีอะไรเป็นใจเลย ทั้งคนในรัฐบาลที่ต่างเกี่ยงกันทำงานแถมโยนความรับผิดชอบให้กระทรวงอื่น ๆ รวมทั้งคนในหน่วยพิเศษที่ต่างก็มีความลับเก็บซ่อนเอาไว้จนความไว้ใจเริ่มระส่ำระสาย
ซึ่งใครที่เคยดูหนังสัตว์ประหลาดระดับตำนานเวอร์ชั่นล่าสุดอย่าง Shin Godzilla มาแล้ว เราเชื่อว่าทุกคน ๆ จะต้องรู้สึกคล้าย ๆ กัน เพราะว่าเนื้อเรื่องนี้จะเล่นไปในแง่ของประเด็นทางการเมือง แต่ทว่าที่หนังเรื่องนี้จะแตกต่างกว่า Shin Godzilla นั่นก็คือ เรื่องนี้จะเป็นการโชว์ศักยภาพที่ไม่พร้อมเอาเสียเลยของรัฐบาลออกมาแทน
ส่วนในด้านของนักแสดงในเรื่องนี้ก็ถือได้ว่าดีกรีระดับแถวหน้าของวงการทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น ยามาดะ เรียวสุเกะ (Yamada Ryosuke) จาก Fullmetal Alchemist กับ ทาโอะ ทสึจิยะ (Tao Tsuchiya) จาก Alice in Borderland ซึ่งการแสดงของทั้งคู่ก็รับส่งกันได้ดีตามมาตรฐาน แถมเรื่องนี้ใครที่เป็นแฟน ๆ หนังประเภทสัตว์ประหลาด หรือ อุลตร้าแมน แล้ว เราแนะนำว่าคุณต้องจับตาดูกันให้ดี ๆ เพราะว่าในหนังเรื่องนี้จะมี อีสเตอร์ เอ้ก ให้บรรดาเหล่าแฟนคลับได้ฮือฮากันอยู่พอสมควร
แต่เพราะการใส่ อีสเตอร์ เอ้ก เข้ามามากเกินไปนี่แหละที่มันก็ได้กลายเป็นจุดอ่อนให้หนังเรื่องนี้เช่นยกัน เพราะว่าหากใครที่ไม่ดิ้นกับการจดจ้องเพื่อหา อีสเตอร์ เอ้ก แล้วลก็ หนังเรื่องนี้ก็จะแปรเปลี่ยนไปเป็นความน่าเบื่อทันที แถมจุดอ่อนที่สำคัญของหนังเรื่องนี้เลยนั่นก็คือ CG เพราะว่ายังมีบางฉากที่ดูลอย ๆ และถ้าจะสังเกตให้ดีก็จะมีบางฉากที่เอากรีนสกรีนออกไปไม่หมดอีกด้วย ส่วนทางด้านบท เราก็ชื่อว่าวิธีการเล่าเรื่องนั้นค่อนข้างที่จะช้า และ หาจุดพีคได้ยากแม้ว่าบทตะช่วยบิ้วอย่างเต็มที่แล้วตามที
โดยรวมซากนรกไคจูพยายามเป็นหนังบูชาครูที่มีอีสเตอร์เอ้กอ้างอิงถึงหนังในวงการโทคุซัตสึ แต่กลับเล่นลึกเกินไปจนคนธรรมดาเข้าไม่ถึง รวมทั้งมุกต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามานั้น กลับทำให้หนังดูเป็นตระกูลยำหนังจี้มากกว่าแนวจิกกัดเสียดสี