ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งม้ามือของวงการหนังสยองขวัญที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นกระแสให้พูดถึงอย่างเรื่อง The Black Phone สายหลอน ซ่อนวิญญาณ ซึ่งก่อนหน้าที่เรื่องนี้จะได้เข้ามาฉายในประเทศ เรื่องนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ค่อนข้างได้รับเสียงวิจารณ์ที่เทกันไปในแง่บวกอย่างค่อนข้างดีเลยทีเดียว เนื่องจากตัวหนังมีชั้นเชิงในการเล่าที่ค่อนข้างดี เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างความสยองขวัญ และ หนังแนวฆาตกรรมนั่นเอง
โดย The Black Phone สายหลอน ซ่อนวิญญาณ จะเล่าถึงเรื่องราวของ ฟินนีย์ ชอว์ เด็กชายขี้อายแต่ชาญฉลาด วัย 13 ขวบ
ที่ถูกชายปริศนาลักพาตัวไปขังอยู่ในห้องใต้ดินเก็บเสียง โดยภายในห้องนั้นมีอุปกรณ์เพียงไม่กี่อย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือ โทรศัพท์รุ่นเก่าติดผนังที่จู่ ๆ มันก็ส่งเสียงดังออกมาทั้ง ๆ ที่สายสัญญาณถูกตัดขาดไปแล้วนั่นเอง ซึ่งการรับสายโทรศัพท์ในครั้งนั้นทำตัวของ ฟินนีย์ ชอว์ ได้พูดคุยกับเหยื่อคนก่อน ๆ มันจึงทำให้เขาต้องหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ออกไปให้ได้
สำหรับเรื่อง The Black Phone สายหลอน ซ่อนวิญญาณ ต้องถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานของ สก็อต เดอร์ริกสัน ที่ค่อนข้างกล้ามากจริง ๆ เพราะว่าตัวของ สก็อต เดอร์ริกสัน ได้ปฏิเสธโอกาสการกำกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง ด็อกเตอร์สเตรนจ์ 2 เพื่อมากำกับเรื่องนี้เลยทีเดียว
ซึ่งการเล่าเรื่องของ The Black Phone สายหลอน ซ่อนวิญญาณ จะบอกว่าดี ก็คงไม่สามารถบอกได้เต็มปาก เพราะว่าเรื่องนี้มันมีทั้งส่วนดี และ ไม่ดีผสมปนเปกันไปตลอดทาง โดยส่วนที่ดีของมันก็คือ การเป็นหนังสยองขวัญที่ค่อนข้างจะใช้บรรยากาศต่าง ๆ ส่งต่อแรงกดดันอันแสนน่าอึดอันมายังคงดูได้อย่างตรงไปตรงมา แถมตัวหนังยังมีการสอดแทรกประเด็ดปัญหาของครอบครัว และ สังคม ซึ่งเหมือนเป็นการสาดใส่คนดูเป็นระยะ ๆ แต่ทว่ามันก็น่าเสียดายที่ไม่สามารถเล่นประเด็นนี้ได้อย่าเต็มที่
แต่ถึงจะเป๋ไปเป๋มา แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถพยุงหนังเรื่องนี้ไม่ให้เสียขบวนไปนั่นก้คือ จังหวะการเล่า เพราะว่าจังหวะการเล่นของ The Black Phone สายหลอน ซ่อนวิญญาณ นั้นค่อนข้างทำออกมาได้สนุก แต่เนื่องจากมันเป็นความสนุกในแบบสูตรสำเร็จตามแบบหนังสยองขวัญทั่วไป ซึ่งมันค่อนข้างที่จะมีการปูเนื้อเรื่องที่ยาวนานจนทำให้เอาหลาย ๆ คนเบื่อไปดื้อ ๆ แต่ทว่าพอเนื้อเรื่องเริ่มขมวดปมเข้ามาแล้ว ตัวหนังก็สามารถพาคุณดูลุ้นไปกับเรื่องราวได้อย่างตลอดลอดฝั่ง และแน่นอนว่ามันยาวไปจนถึงฉากจบที่ทำเอาหลาย ๆ คนสะใจเลยอีกด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำเอาเราแทบไม่อยากจะเชื่อเลยนั่นก็คือ เมสัน เทมส์ นักแสดงเด็กที่รับบทนำของเธอ ซึ่งเราแทบจะไม่เชื่อเลยว่านี่คือผลงานการแสดงเรื่องแรกของเจ้าหนูน้อยคนนี้ ซึ่งเขาสามารถแสดงบทบาทของเด็กที่ถูกจับมาได้นิ่ง และ ดูมีท่าทางจริงจึงไปในตัวได้ค่อนข้างดี
ส่วนดาราเด็กอีกคนหนึ่งอย่าง เมเดอลีน แม็กกรอว์ เธอคนนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคาแร็คเตอร์ที่ทำให้คนดูอิน และ ไม่อาจจะละสายตาจากเธอได้เช่นกัน เพราะการแสดงของเธอนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างเข้มข้ม แถมยังส่งพลังการแสดงมายังคนดูได้อย่างถึงอารมณ์แบบสุด ๆ
และเมื่อชมการแสดงของเด็กน้อยทั้ง 2 ไปแล้วอีกหนึ่งคนที่จะไม่ชมไม่ได้เลยนั่นก็คือฝั่งของ อีธาน ฮอว์ก ที่เขาคนนี้มีฝีมือในการแสดงหนังหลาย ๆ เรื่องให้เราได้ประจักษ์กันอยู่แล้ว แต่สำหรับเรื่องนี้ตัวของ อีธาน ฮอว์ก นั้นสามารถที่จะแสดงออกมาได้อย่างสุดยอด โดยเขาไม่จำเป็นจะต้องใช้พลังอะไรการแสดงออกอะไรให้มันดูเวอร์วัง แต่มันกลับเป็นการแสดงที่ดูน้อย แต่ทรงพลังจนทำให้เรารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเลยจริง ๆ
หากจะพูดโดยภาพรวมแล้ว The Black Phone สายหลอน ซ่อนวิญญาณ ถือได้ว่าเป็นหนังเขย่าขวัญ ที่มีบรรยากาศของยุค 70s ที่ถ่ายทอดออกมาได้สนุก จนทำให้พาให้เราเพลิดเพลินไปได้อย่างไม่รู้ตัว ซึ่งใครกำลังหาความสยองแบบที่ไม่ได้หลอยจับจิตจับใจ แต่ก็ทำให้หายใจไม่ทั่วท้องอยู่แล้วละก็ The Black Phone สายหลอน ซ่อนวิญญาณ คือทางเลือกของคุณ