เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งการ์ตูนกระแสหลักที่น่าจับตามองไม่แพ้เรื่องไหน ๆ เลยทีเดียวกับการ์ตูนอนิเมชั่นอย่าง Jujutsu Kaizen หรือชื่อว่า มหาเวทย์ผนึกมาร ซึ่งหลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างมากกับตัวอนิเมชั่นที่ทำออกมา มันจึงทำให้เรื่องนี้เดินหน้าเข้าสู่สูตรสำเร็จเหมือกับหนังอนิเมชั่นรุ่นพี่อย่างดาบพิฆาตอสูรทำเอาไว้นั่นก็คือ การแยกออกมาทำเป็น The Movie ภาคแยกนั่นเอง โดยเนื้อหาของ Jujutsu Kaizen ที่ถูกแยกออกมาทำเป็น The Movie นั่นก็คือ เนื้อหาจากหนังสือการ์ตูน ตอน 0 นั่นเอง
โดยเนื้อเรื่องของ Jujutsu Kaizen 0 จะเป็นเนื้อเรื่องปฐมบทของตัวซีรีส์อนิเมะ โดยพระเอกของภาพยนตร์นี้ก็คือ ‘อคคตสึ ยูตะ’ หนุ่มมัธยมผู้ถูกสาปให้อยู่กับคนรักสมัยเด็กที่เสียชีวิตไปนานแล้วชื่อว่า ‘โอริโมโตะ ริกะ’ แต่ทว่าวันหนึ่ง ยูตะถูกอันธพาลรุมทำร้าย จึงทำให้ริกะปรากฎตัวออกมาในร่างปีศาจ และทำร้ายอันธพาลเหล่านั้นจนบาดเจ็บสาหัส ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ยูตะต้องถูก ‘โกโจ ซาโตรุ’ อาจารย์สอนผู้ใช้คุณไสยระดับพิเศษ รับไปดูแลเป็นนักเรียนปี 1 ของโรงเรียนจูจุทสึ เพื่อไม่ให้ยูตะเผลอปล่อยริกะออกมาทำร้ายผู้คนอีก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ยูตะกำลังฝึกฝนการควบคุมพลังของตัวเอง ‘เกะโท สุงุรุ’ เพื่อนเก่าของโกโจ และตัวร้ายหลักของเรื่อง ก็ได้ปรากฎตัวและพยายามโน้มน้าวให้ยูตะเข้าร่วมแผนการทำลายมนุษยชาติที่ไม่มีไสยเวทย์ให้สิ้นซาก แน่นอนว่าพระเอกของเราไม่เห็นด้วยกับแผนของเกะโทจึงได้ปฎิเสธไป เนื่องจากเกะโทต้องการพลังของยูตะมาก ๆ จึงได้ประกาศทำสงครามกับทางฝ่ายโรงเรียนจูจุทสึนั่นเอง
ซึ่งถ้าให้สรุปเนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้จริง ๆ แล้วเราก็ต้องบอกได้เลยว่ามันเป็นการเน้นไปที่เส้นเรื่องของความรักระหว่า ยูตะ และ ริกะ ซึ่งมันสามารถทำให้ผู้ชมใหม่สามารถอินไปกับเนื้อเรื่องและเข้าใจกับมันได้ง่าย แต่ถึงจะอย่างไรก็ตาม ตัวยูตะเองก็ค่อนข้างจะมีพัฒนาการคล้ายกับพระเอกอนิเมะโชเน็นทั่วไป อย่างเช่นจู่ ๆ ก็แข็งแกร่งกว่าปกติ เมื่อเห็นเพื่อนร่วมชั้นของตนถูกทำร้าย
และแน่นอว่าเมื่อเป็นการ์ตูนแอ็คชั่นเราก็ต้องพูดถึงฉากต่อสู้ โดยฉากต่อสู้ในเรื่องนี้ถือได้ว่าทำออกมาได้อลังการ ตื่นเต้น และสะใจ ส่วนทางด้านงานภาพนั้นต้องบอกเลยว่าสวยงามในระดับมาตรฐานของ MAPPA สตูดิโอชื่อดัง ซึ่งใครที่ชอบภาพในซีรีย์มาอยู่แล้ว ภาพที่คุณจะได้เห็นผ่าจอในโรงภาพยนตรืรับรองว่าคุณเองก็จะต้องชอบเช่นกัน
ถ้าจะให้พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้โดยรวมแล้ว เราก็ต้องขอบอกว่าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงได้ก้าวขึ้นมาอยู่ในหนังในภาพยนตร์อนิเมะที่กวาดรายได้เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก เพราะว่าเนื้อเรื่องสามารถเล่าออกมาให้ผู้ชมหน้าใหม่และแฟน ๆ ของซีรีส์ทำความเข้าใจได้ง่าย แถมยังมีการผสมผสาน ดราม่าเข้ากับคอมเมดี้ได้ดี ส่วนฉากบู๊ก็ทำเอาหลาย ๆ คนสะใจไปกับฉากต่อสู้ที่มีเพลงประกอบและแอนิเมชั่นที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมอีก
หากใครที่กำลังมองหาภาพยนตร์มัน ๆ ดูในช่วงนี้ โดยเฉพาะแฟน ๆ อนิเมะ ทางเราก็ขอแนะนำว่า Jujutsu Kaizen 0 เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลย