โจรขึ้นบ้าน 10 ครั้งยังไม่เท่ากับไฟไหม้ครั้งเดียว เราเชื่อว่าคำนี้หลาย ๆ คนน่าจะได้ยิน และ ได้ฟังกันมาบ่อย ๆ แล้ว ซึ่งคำกล่าวนี้นี่แหละที่มันแสดงให้เห็นถึงอันตรายร้ายแรงของสิ่งที่เรียกว่า อัคคีภัยได้เป็นอย่างดี ซึ่งแค่ไฟไหม้บ้านธรรมดาเรายังรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เจ็บปวดอย่างสุด ๆ แต่ถ้าเกิดมันไหม้สิ่งที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์มันจะทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดขนาดไหน
ซึ่งความรู้สึกนี้นี่แหละที่จะถูกถ่ายทอดออกมาผ่านทางภาพยนตร์เรื่อง Notre-Dame On Fire ภารกิจกล้า ฝ่าไฟนอเทรอดาม ภาพยนตร์ที่พาคุณเข้าไปสำรวจทุกแง่มุม และ การปฏิบัติภารกิจสุดกล้าหาญของเหล่านักผจญเพลิง
a
โดยเรื่องราวของ Notre-Dame On Fire จะเป็นการหยิบเอาเหตุการณ์สุดช็อกโลกเมื่อเดือนเมษายน 2019 กับความเสียหายครั้งใหญ่สุดที่เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนจากเหตุไฟไหม้มหาวิหารนอเทรอดามกลางกรุงปารีส มาถ่ายทอดบนจอภาพยนตร์เป็นครั้งแรก โดยความหวังเดียวที่จะกอบกู้สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และมรดกโลกที่มีอายุกว่า 850 ปี แห่งนี้ อยู่ที่กลุ่มนักผจญเพลิง ผู้ต้องบุกฝ่ากองเพลิงสุดอันตรายเพื่อที่จะหาทางหยุดยั้งมหันตภัยดังกล่าวไว้ให้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะสูญสลายไป
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ ฌอง-ชาคส์ อองโนด์ ที่เราน่าจะพอคุ้นเคยกันดีกับผลงานอันแสนยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Enemy at the Gates หรือ Seven Years in Tibet ซึ่งในเรื่องนี้ตัวของเขาก็สามารถที่จะพกพาความเก๋า และ ถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ออกมาเป็นหนังดราม่าสุดเข้มข้น ปน ๆ กับความเป็นสารคดีออกมาตีแผ่ได้ค่อนข้างใช้ได้เลยทีเดียว
โดยการเล่าเรื่องของ Notre-Dame On Fire นั้นจะเป็นการเล่าเรื่องแบบเจาะลึกถึงเหตุการณ์นี้จึงทำให้ช่วงเวลาแรก ๆ ของนั้นค่อนข้างที่ดำเนินไปอย่างช้า ๆ สักหน่อยเพราะว่ามันต้องใช้เวลาในการปูเรื่องราวให้คนนั้นอินกับบรรดาเหล่าตัวละครต่าง ๆ แต่ทว่าพอหลังจากที่หนังเรื่องนี้สามารถปูเรื่องราวได้เสร็จเรียบร้อย หนังเรื่องนี้ก็เริ่มทำงานตามหน้าที่ของมันได้อย่างลงตัว
เพราะว่าเปลวไฟ รวถึงความหวังนักผจญเพลิงที่อยากจะให้เปลวไฟอันร้ายแรงนี้หยุดลงเร็ว ๆ มันสามารถส่งผ่านมาถึงคนดูที่กำลังนั่งดูได้อย่างยอดเยี่ยม แถมมันก็เต็มไปด้วยความลุ้นระทึก
ส่วนใครคิดว่าหนังเรื่องนี้จะมีวิธีการเล่าอันมีชั้นเชิง ตัดสัลบไปสลับมาเพื่อเพิ่มความตื่นเต้นแล้วละก็ เราขอบอกว่าคุณน่าจะผิดหวัง เพราะว่าในเรื่องนี้จะเป็นการดำเนินเรื่องราวไปตามเหตุการณ์จริง ๆ แทบจะไม่มีผิดเพี้ยน แต่เทคนิคที่นำมาใช้ในหนังเรื่องนี้ก็มีผสานเรื่องราวของการแสดงเข้ากับภาพจากเหตุการณ์จริง แต่ถึงแบบนั้นแล้วมันก็สามารถที่จะเล่าออกมาผสมกันได้อย่างลงตัว
ส่วนด้านการแสดงนั้น เราต้องถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี แต่มันไม่ใช่กับนักแสดงคนใดคนหนึ่ง เพราะว่าในเรื่องนี้มันสามารถที่จะส่งให้นักแสดงทุก ๆ มีความเด่นในแบบเฉพาะของตัวเอง ซึ่งมันเป็นการเกลี่ยบทที่ค่อข้างดี
โดยรวม ๆ แล้ว Notre-Dame On Fire ถือได้ว่าเป็นหนังที่สร้างจากเหตุการณ์จริง ๆ ที่สามารถตีแผ่เรื่องราวกการทำงานต่าง ๆ ของเจ้าหน้าที่ออกมาได้ค่อนข้างดี จนทำให้คนดูรู้สึกอินกับความพยายามในการหาทางทำให้เพลิงสงบลงของเจ้าหน้าที่
แต่ไม่เพียงเท่านั้นเพราะว่าตัวหนังยังมีแอบมีการสอดแทรกมุมมองทางความเชื่อของศาสนาเข้ามาในหลาย ๆ จังหวะ แต่ถึงจะมีการสอดแทรกเข้ามา มันก็ก็ไม่ได้เป็นการสอดแทรกที่ยัดเยียดจนเกินไปนั่นเอง